บทความ

วิธีซ่อมรอยรั่วของหลังคาแอสฟัลท์แบบชิงเกิ้ล

12 ก.ย. 2565 21:39 เข้าชม 2616

การซ่อมแซมหลังคาที่รั่วนั้นไม่ได้ยากเท่าการค้นหาและระบุว่าส่วนไหนกันแน่ที่รั่ว หรือสาเหตุที่ทำให้หลังคารั่ว อันที่จริงแล้ว การหาสาเหตุที่หลังคารั่วนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากที่สุดในขั้นตอนการซ่อมหลังคาเลยทีเดียว ดังนั้นบทความนี้จะมาพูดถึงวิธีค้นหาสาเหตุที่หลังคารั่ว และหาวิธีป้องกันการเกิดรอบรั่วซึมในอนาคต

  1. เช็คอายุของหลังคาของคุณ

    โดยปกติแล้ว หลังคาชิงเกิ้ลแบบ3-tabนั้นจะเป็นจะต้องโละเปลี่ยนหลังจากใช้งานเป็นเวลาประมาณ12-17ปี หากหลังคาของคุณมีส่วนที่หลุดหาย งอ หรือมีรอยร้าวจำนวนมากนั้น แสดงว่าถึงเวลาที่ควรจะโละเปลี่ยนได้แล้วเพราะได้ถึงอายุการใช้งานของมันแล้ว ดังนั้นจึงไม่คุ้มค่ากับการซ่อม และควรเปลี่ยนใหม่เสียดีกว่า
    แต่หากว่าหลังคาของคุณนั้นใช้งานมาเพียงแค่ไม่กี่ปี ให้คุณโทรไปหาบริษัทที่ติดตั้งหลังคาให้กับคุณก่อน แต่หากพวกเขาไม่ยอมมาซ่อมด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม คุณก็ควรที่จะหาสาเหตุที่รั่วและซ่อมแซมด้วยตัวเอง
  2. หาสาเหตุที่ทำให้เกิดการรั่ว

    หากหลังคาชิงเกิ้ลของคุณนั้นเพิ่งจะเกิดอาการรั่วหลังช่วงมรุสุมหนัก มีความเป็นไปได้สูงว่าสาเหตุของการรั่วนั้นเกิดจากหลังคานั้นมีส่วนที่ปลิวหายไปหรือแตกจากความเสียหาย หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็จะสามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดายโดยการเปลี่ยนหรือนำแผ่นใหม่เข้ามาแทนที่เท่านั้นเอง

  3. การหารอยรั่วในแผ่นปิดครอบมุม (flashing)

    หากหลังคาของคุณนั้นไม่มีส่วนที่หายไปหรือรอยแตก ก็ต้องเช็คสิ่งต่อไปซึ่งก็คือ ตรวจสอบแผ่นครอบมุมทั้งหลายว่ามีรอยรั่วหรือเสียหายหรือไม่ ปกติแล้วมันเป็นเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะเกิดรอยรั่วบนหลังคาหากตัวหลังคาไม่ได้เสียหาย ถึงจะเก่าแค่ไหนก็ตาม ดังนั้นสาเหตุส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องเจาะหลังคาขึ้นไปเช่น ปล่องไฟ การเดินท่อน้ำ การเดินท่ออากาศ ที่ระบายอากาศ หรืออะไรก็ตามที่จำเป็นจะจ้องเจาะหลังคาขึ้นไป ซึ่งอาจจะอยู่ข้างบนจุดที่เกิดอาการรั่วเลยตรงๆ

  4. แล้วถ้าแผ่นรองเหล่านั้นก็ไม่มีอะไรเสียหายล่ะ?

    เช็คดูว่าหลังคาของคุณมีระดับความลาดชันที่เหมาะสมกับหลังคาแบบแอสฟัลท์หรือไม่ หากหลังคาของคุณมีความลาดต่ำกว่า3-12 แสดงว่าหลังคานั้นอาจจะมีสิทธิ์รั่วจากฝนที่โดนลมพัด อย่าลืมตรวจสอบว่าส่วนจั่วหลังคานั้นมีแผ่นกันครบทุกด้านหรือไม่ ถ้าเกิดไม่มีแผ่นกันโลหะแสดงว่าผู้ติดตั้งนั้นใช้ไม่ได้ และจะต้องทำการติดตั้งใหม่

หลังคานั้นเป็นเรื่องต้นๆเลยที่จะต้องให้ความใส่ใจในการรักษาบ้าน เพราะว่ามันมีโอกาสที่จะเกิดความเสียหายมากที่สุด อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องที่สามารถแก้ไขได้ค่อนข้างง่ายหากสามารถขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญได้ และเมื่อคุณสามารถระบุตำแหน่งและรู้ถึงสาเหตุแล้ว ก็สามารถเปลี่ยนส่วนนั้นได้ในทันที ถึงแม้มันจะสามารถซ่อมได้ง่าย แต่ก็ควรจะเรียกผู้เชี่ยวชาญหากมีความเสียหายที่เป็นวงกว้าง หรือถ้าเกิดมีปัญหาด้านโครงสร้าง หรืออีกกรณีก็คือเมื่อหลังคานั้นใช้งานมานานกว่า20ปีแล้ว

ที่มา:  
www.wikihow.com
www.roofcostestimator.com
‍www.familyhandyman.com
พูดคุย-สอบถาม คลิก